ข้อตกลงกับผู้ใช้
เพลงและศิลปินมาใหม่ ฟังได้ไม่ตกเทรนด์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
เราถือปฎิบัติอย่างเคร่งครัดว่าเรื่องความเป็นส่วนตัวของท่านผู้ใช้งานเว็บไซต์ฟังใจเป็นเรื่องสำคัญ และเราจะจัดเก็บ บันทึก ยึดถือ เก็บรักษา เปิดเผย โอน หรือใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่านตามที่กำหนดไว้ด้านล่างนี้ การปกป้องรักษาข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ความเป็นส่วนตัวของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญของเรา เราจึงจะใช้ชื่อหรือข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน เพียงเฉพาะสำหรับกิจการที่ได้กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เท่านั้น เราจะจัดเก็บข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการดังกล่าว และเราจะจัดเก็บเพียงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อทางธุรกิจระหว่างท่านกับเราเท่านั้น เราจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านในระยะเวลาเพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำหรือในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ หากท่านมีความคิดเห็น คำแนะนำหรือคำติชม ท่านสามารถติดต่อเราได้ทางอีเมลที่ระบุข้างล่าง
การจัดเก็บข้อมูลส่วนตัว
การจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวจาก Facebook หากท่านสมัครเพื่อใช้งานฟังใจโดยผ่านทางบัญชี Facebook เราอาจเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับท่านที่ท่านได้ให้ไว้โดยสมัครใจกับบัญชี Facebook ภายใต้นโยบายต่างๆของผู้ให้บริการ เราจะจัดการข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ได้รับมาดังกล่าวตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของฟังใจการเก็บที่อยู่อีเมล เราจะเก็บที่อยู่อีเมลที่ท่านกรอกไว้ในกล่องรับที่อยู่อีเมลเพื่อรับจดหมายข่าวและข่าวสารทางอีเมล
การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
เราจะใช้ข้อมูลส่วนที่เราได้รับจากท่านหรือส่งต่อแก่บุคคลภายนอก (รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการภายนอก) เพื่อประโยชน์ของกิจการทั้งหมดหรือแต่บางส่วนดังจะได้กล่าวต่อไปนี้เพื่อการใช้งานแพลตฟอร์มของฟังใจ เพื่อระบุตัวตนผู้เข้าใช้ เพื่อการวิเคราะห์สถิติและพฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อจัดส่งข้อมูลที่เราคาดว่าท่านว่ามีประโยชน์สำหรับท่านหรือที่ท่านได้ร้องขอจากเราให้แก่ท่าน เมื่อท่านได้สมัครเพื่อเปิดบัญชีการใช้บริการกับฟังใจหรือได้ส่งมอบข้อมูลส่วนตัวของท่านผ่านทางแพลตฟอร์ม เราใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่านเพื่อส่งข่าวสารทางการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเราหรือของผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอกเป็นครั้งคราว ท่านสามารถยกเลิกการรับข้อมูลการตลาดได้ตลอดเวลา โดยการใช้ระบบการยกเลิกการรับข้อมูลที่อยู่ในข้อมูลทางการตลาดที่จัดส่งให้ เราอาจใช้ข้อมูลการติดต่อของท่านเพื่อส่งเอกสารข่าวสารจากเราหรือจากบริษัทที่เกี่ยวข้องของเรา; และในกรณีที่เป็นข้อยกเว้นและฟังใจถูกขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่นในกรณีที่มีมูลให้เชื่อว่าการเปิดเผยดังกล่าวอาจป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกาย สำหรับวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับหรือการร้องขออื่นใดฟังใจอาจส่งมอบข้อมูลส่วนตัวของท่านให้แก่บุคคลภายนอกหรือบริษัทในเครือสำหรับวัตถุประสงค์ดังกล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อดำเนินธุรกรรมต่างๆกับท่านให้สำเร็จ จัดการบัญชีการใช้บริการของท่าน จัดการความสัมพันธ์อื่นๆกับท่าน การตลาด การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ การร้องขออื่นๆ ที่ฟังใจเห็นว่าจำเป็น ในการแบ่งปันข้อมูลให้แก่บุคคลดังกล่าว ฟังใจจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อรับรองว่าบุคคลภายนอกและบริษัทในเครือของเราจะรักษาและปกป้องข้อมูลส่วนตัวของท่านจากการเข้าถึง การจัดเก็บ การใช้ การเปิดเผย โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือความเสี่ยงอื่นๆในลักษณะเดียวกัน และจะต้องเก็บข้อมูลส่วนตัวของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับกิจการที่ได้กล่าวไว้ด้านบนนี้เท่านั้น ฟังใจไม่เคยและไม่ได้ทำธุรกิจในการค้าข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าแก่บุคคลภายนอก

1. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางใดบ้าง บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง จากการที่ท่านเข้าใช้บริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท ได้แก่ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน อีเมล สำนักงานของบริษัท เจ้าหน้าที่ของบริษัท หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างท่านกับบริษัท รวมถึงเก็บผ่าน browser’s cookies ของท่าน

2. บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง เพื่อประโยชน์ของท่านในการใช้สินค้า และ/หรือบริการของบริษัท บริษัทจะทำการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตุประสงค์ของบริษัท โดยวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล มีดังนี้

2.1 เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท เช่น

2.1.1 ใช้ยืนยันตัวตนของท่านในการทำสัญญากับบริษัท

2.1.2 ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท

2.1.3 ใช้ในการชำระค่าตอบแทน

2.1.4 ใช้ในการจัดส่งสินค้า และ/หรือใบเสร็จ

2.2 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือตามคำสั่งของหน่วยงานใดของรัฐที่มีอำนาจ เช่น

2.2.1 การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

2.2.2 การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

2.2.3 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

2.2.4 กฎหมายอื่น ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตาม

2.2.5 ประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายในข้อ 2.2.1 ถึง ข้อ 2.2.4

2.2.6 คำสั่งทางกฎหมาย (รวมถึงการปฏิบัติตามหมายศาล หรือคำขอจากหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ศาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐอย่างไม่จำกัด)

2.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลอื่นสำหรับการดำเนินการใด ๆ ที่มีความจำเป็นเท่าที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เช่น

2.3.1 เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน

2.3.2 เพื่อป้องกัน ตรวจสอบ รายการต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และการฉ้อโกง หรือหาตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัท

2.3.3 เพื่อวิเคราะห์ ทบทวน พัฒนา และปรับปรุงการให้บริการของบริษัท

2.3.4 เพื่อใช้ในกรณีทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุถึงตัวท่านได้

2.3.5 เพื่อสรรค์สร้างและพัฒนาการให้บริการในอนาคต

2.3.6 เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน หรือตอบปัญหาข้อสงสัยต่าง ๆ ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.3.7 เพื่อดำเนินการอย่างทันทีทันใดในการคุ้มครองความปลอดภัยของสาธารณะชนหรือของผู้ใช้บริการของบริษัท

2.4 เพื่อประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจากการเข้าใช้บริการของบริษัท บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เท่าที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท เช่น

2.4.1 เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดี สะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น

2.4.2 เพื่อให้ท่านไม่พลาดโอกาสได้รับข่าวสาร บริการใหม่ของบริษัท ข้อเสนอเกี่ยวกับการซื้อบริการใด ๆ สิทธิประโยชน์พิเศษ คะแนนสะสม โปรโมชัน รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้นเป็นพิเศษ

2.4.3 เพื่อให้ท่านไม่พลาดโอกาสรับข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือสิทธิประโยชน์พิเศษใด ๆ จากบริษัทในเครือของบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ ในการให้ความยินยอมตามข้อ 2.4 นี้ หากท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนไร้ความสามารถ ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล (แล้วแต่กรณี) ก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้สามารถทำได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม

2.5 เพื่อการประมวลข้อมูลภายในบริษัท การทำสถิติ วิเคราะห์ ศึกษาวิจัยการใช้บริการของบริษัท อนึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะมีผลใช้บังคับ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ที่นี่

3. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกโดยปราศจากความยินยอมจากท่าน เว้นแต่บริษัทมีหน้าที่หรือได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงการให้บริการของบริษัท เพื่อการจัดทำข้อมูลทางสถิติ หรือการทำวิจัยการใช้บริการของบริษัท เพื่อการพิสูจน์ตัวตน เพื่อการป้องกันการทุจริต เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ของบริษัท เพื่อให้บุคคลภายนอกให้การสนับสนุนบริษัท เป็นต้น โดยบริษัทอาจเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอกหรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น บริษัทในเครือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการภายนอก พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้รับโอนสิทธิในการควบรวมกิจการต่าง ๆ ของบริษัท นิติบุคคลหรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัท รวมถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว ในกรณีที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลภายนอก เนื่องจากการเข้าทำความตกลงทางการตลาดร่วม และ/หรือร่วมโฆษณาส่งเสริมการขายกับบุคคลภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์ในการดึงดูดผู้ใช้บริการในการใช้บริการต่าง ๆ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการที่จะยืนยันรับรองหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลภายนอกนั้นว่า ผู้ใช้บริการมีการใช้บริการใด ๆ หรือเปิดบัญชีผู้ใช้กับบริษัท หรือให้ข้อมูลแก่ผู้ให้บริการรายอื่นในบางกรณี เพื่อการช่วยเหลือบริษัทในการให้บริการอย่างดีที่สุด และบริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการรายอื่นมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลความเป็นส่วนตัวของท่าน

4. บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหรือไม่ บริษัทอาจมีความจำเป็นในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลปลายทางในต่างประเทศซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน server หรือ cloud ในต่างประเทศ บริษัทจะทำการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลปลายทางในต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวมอย่างปลอดภัย ในกรณีผู้รับข้อมูลปลายทางในต่างประเทศมีมาตรฐานที่ไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้และไม่ต่ำกว่าที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลปลายทางในต่างประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศ บริษัทอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้

5. บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นผู้ใช้บริการหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตลอดระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฯ ฉบับนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บและไม่มีความจำเป็น บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลแฝง เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

6. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร บริษัทจะรักษามาตรฐานในการจัดเก็บรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเคร่งครัด เพื่อวัตถุประสงค์ในการปกป้องความเสียหาย หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยไม่มีอำนาจ บริษัทจะดำเนินการตามมาตรการเชิงเทคนิค เชิงบริหารจัดการ หรือมาตรการอื่นใด และจะทำการปรับปรุงนโยบายฯ ตามความจำเป็นและความเหมาะสม ทั้งนี้ กรณีที่ข้อมูลเกิดการสูญหาย การวิบัติ การจู่โจม ไวรัส การรบกวน การเจาะระบบ หรือการบุกรุกการรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ จากบุคคลภายนอกเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท บริษัทขอสงวนสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดที่เกี่ยวข้องกับการนั้น

7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ใช้บริการของบริษัท ท่านมีสิทธิดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และนโยบายฯ ที่บริษัทกำหนดในขณะนี้หรือที่อาจมีขึ้นในอนาคต

7.1 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (1) ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท (2) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน (3) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

7.2 สิทธิขอโอนข้อมูลส่วนบุคคล (1) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการอัตโนมัติ (2) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ (3) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถทำได้เพราะสาเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

7.3 สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (1) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินการเท่าที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หากท่านยื่นคำขอคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี (2) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด (3) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท

7.4 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลส่วนบุคคลแฝง เมื่อท่านเห็นว่าไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฯ ฉบับนี้ หรือการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอคัดค้านตามข้อ 7.3 (1) ข้อ 7.3 (2) และข้อ 7.3 (3) หรือใช้สิทธิขอถอนความยินยอมตามข้อ 7.8

7.5 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (1) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน (2) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวในกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

7.6 สิทธิขอแก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7.7 สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

7.8 สิทธิขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ใช้บังคับหรือภายหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ท่านได้รับประโยชน์อยู่ เมื่อท่านยื่นคำขอใช้สิทธิขอถอนความยินยอมมายังบริษัทแล้ว บริษัทจะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิขอถอนความยินยอมของท่าน ภายในระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน เว้นแต่กรณีที่ข้อมูลในคำขอใช้สิทธิเป็นข้อมูลที่ต้องจัดเก็บตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 บริษัทมีหน้าที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ไม่น้อยกว่า 90 (เก้าสิบ) วันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าการที่ท่านถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบในการใช้บริการของบริษัท เช่น ท่านจะไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน ไม่ได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์ โปรโมชัน คะแนนสะสม หรือไม่ได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน เป็นต้น ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า บริษัทจะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านในข้อ 7.1 ถึง ข้อ 7.7 โดยไม่ชักช้า ภายในระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอใช้สิทธิจากท่าน ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอาจมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่ทำให้บริษัทอาจใช้สิทธิปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิซึ่งอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลของการปฏิเสธคำขอของท่าน

8. ท่านจะติดต่อบริษัทได้อย่างไร หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฯ ฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อฝ่ายช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทได้ที่อีเมล [email protected] หรือตามที่อยู่ ฟังใจ จำกัด เลขที่ 1104/207-209 หมู่บ้านโนเบิลคิวบ์พัฒนาการ ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250

การเพิกถอนความยินยอม
ท่านอาจส่งคำคัดค้านการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านสำหรับกิจการต่างๆหรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ด้านบน แก่เราได้ตลอดเวลา โดยติดต่อเราผ่านทางอีเมลที่ระบุข้างล่าง โปรดทราบว่าหากท่านได้ส่งคำคัดค้านการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านสำหรับกิจการต่างๆ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ด้านบน ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ของคำคัดค้าน เราอาจไม่อยู่ในสถานะที่จะบริการให้แก่ท่านหรือปฏิบัติตามสัญญาต่อท่านได้ เราขอสงวนสิทธิทางกฎหมายและการเยียวยาไว้โดยชัดแจ้งในกรณีซึ่งเราไม่สามารถบริการให้แก่ท่านหรือตามปฏิบัติตามสัญญาต่อท่านได้อันเกิดจากคำคัดค้านดังกล่าว
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของท่าน
ฟังใจรับรองว่าข้อมูลที่จัดเก็บทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย เราป้องกันข้อมูลส่วนตัวของท่านโดยจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต จัดการทำลายข้อมูลส่วนตัวของท่านเพื่อความปลอดภัยเมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ทางกฎหมายและธุรกิจอีกต่อไป หากท่านมีเหตุให้เชื่อว่าความเป็นส่วนตัวของท่านได้ถูกละเมิดโดยฟังใจ กรุณาติดต่อเราผ่านทางอีเมลที่ระบุข้างล่าง
ไม่มีข้อมูลขยะสแปม สปายแวร์ ไวรัส
ข้อมูลขยะ (Spam) สปายแวร์ (Spyware) หรือ ไวรัส (Virus) นั้นไม่ได้รับอนุญาตบนแพลตฟอร์ม กรุณาตั้งค่าและคงสภาพความต้องการ (Preference) ในการติดต่อสื่อสารเพื่อที่เราจะได้ส่งข้อมูลการติดต่อสื่อสารตามที่ท่านต้องการ ท่านจะไม่ส่งข้อความใดๆที่มี ข้อมูลขยะ สปายแวร์ หรือไวรัส ผ่านทางแพลตฟอร์ม หากท่านต้องการรายงานข้อความที่น่าสงสัยให้เราทราบ กรุณาติดต่อผ่านทางอีเมลที่ระบุข้างล่าง
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
ฟังใจจะตรวจสอบประสิทธิภาพของนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำ เราขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนได้ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวจะถูกประกาศหรือตีพิมพ์ไว้ในแพลตฟอร์ม
สิทธิของฟังใจ
ท่านรับทราบและตกลงว่า ฟังใจมีสิทธิในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแก่ หน่วยงานผู้มีอำนาจทางกฎหมาย หน่วยงานการกำกับควบคุมดูแล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเกี่ยวกับภาษี หน่วยงานในการบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าของสิทธิต่างๆที่เกี่ยวข้อง หากฟังใจมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านนั้นจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามหน้าที่ ความรับผิดขอบ การจัดการและข้อตกลง ไม่ว่าโดยสมัครใจหรือการบังคับ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความร่วมมือกับคำสั่ง การสอบสวน และ/หรือการร้องขอในรูปแบบต่างๆของหน่วยงานนั้นๆ ภายใต้การบังคับของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านตกลงว่าจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีหรือดำเนินการใดๆต่อฟังใจ และสละสิทธิเรียกร้องหรือสิทธิอื่นใดอันมีต่อ ฟังใจ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น
การติดต่อฟังใจ
หากท่านต้องการเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่าน ขอเรียกดูข้อมูลและ/หรือข้อมูลส่วนตัว มีคำถาม ความคิดเห็น ข้อกังวล หรือขอความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค หรือเกี่ยวกับโปรแกรมคุกกี้ (cookies)

กรุณาติดต่อเราได้ผ่านทางอีเมล [email protected]
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

การเข้าถึงหรือใช้บริการเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหรือ www.fungjai.com (“เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน” หรือ “ฟังใจ”) ภายใต้การควบคุมดูแลของ บริษัท ฟังใจ จำกัด (“บริษัทฯ”) (รวมถึงบริษัทสาขา บริษัทในเครือ กิจการที่บริษัทฯ เป็นหุ้นส่วน บริษัทย่อย ตัวแทน พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ รวมเรียกว่า “บริษัทฯ” “ฟังใจ” หรือ “เรา”) หมายถึงผู้ใช้ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ปรากฏบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันว่ามีผลผูกพันตามกฎหมาย (“เงื่อนไข”) และผู้ใช้ยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันและยอมรับที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบอื่น ๆ บนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เช่น วิธีการใช้ วิธีปฏิบัติและขั้นตอน หรือเงื่อนไขสำหรับการเข้าถึงหรือการใช้บริการของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ดูเพิ่มเติม