Musketeers
มัสเก็ตเทียร์
2024 Sea (Single)
จำนวน 1 เพลง
Sea
Musketeers
2023 Romantic (Single)
จำนวน 1 เพลง
โรแมนติก (Romantic)
Musketeers
2022 Consider (Single)
จำนวน 1 เพลง
พิจารณา
Musketeers
2021 Pleased (Single)
จำนวน 1 เพลง
ยินดี
Musketeers
2018 Fungjai Crossplay 2
จำนวน 1 เพลง
ภาวิณี (electric.neon.lamp Cover) | Fungjai Crossplay 2
Musketeers
2017 Ploi Wai Yang Nan (Single)
จำนวน 1 เพลง
ปล่อยไว้อย่างนั้น
Musketeers
2016 Narika (Single)
จำนวน 1 เพลง
นาฬิกา
Musketeers
2015 Chan Kon Deaw Tee Roo (Single)
จำนวน 1 เพลง
ฉันคนเดียวที่รู้
Musketeers
2015 Time Machine (Single)
จำนวน 2 เพลง
Time Machine
Musketeers
ให้โลกหมุนตาม
Musketeers
2014 Ngarn Ten Rum (Single)
จำนวน 1 เพลง
งานเต้นรำ
Musketeers
2013 Kae Khun (Single)
จำนวน 1 เพลง
แค่คุณ
Musketeers
2013 Ni Tarn (Single)
จำนวน 1 เพลง
นิทาน
Musketeers
2012 Yark Hai Ter Long (Single)
จำนวน 1 เพลง
อยากให้เธอลอง
Musketeers
2012 Dancing (Single)
จำนวน 1 เพลง
Dancing
Musketeers
WHAT THE DUCK
กรุงเทพมหานคร
ประวัติศิลปิน
MUSKETEERS คือ วงดนตรีโมเดิร์นร็อคจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับอิทธิพลและมีกลิ่นอายมาจากดนตรีฝั่งอังกฤษ โดยจริงๆ แล้วสมาชิกแต่ละคนจะมีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป แต่กลับเป็นข้อดีที่ทำให้จุดเด่นของแต่ละคนผลิตออกมาเป็นเพลงที่มีลายมือของ วงค่อนข้างชัดเจน  ด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะ ติดหู กับดนตรีหลากหลายอารมณ์ บวกกับเนื้อหาเท่ห์ๆ จากวิธีคิดของพวกเขา การรวมตัวของเริ่มจากการที่ทุกคนชอบนัดซ้อมดนตรีหลังเลิกเรียนด้วยกันเป็น ประจำ และเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากเวทีต่างๆ อาทิ งาน Hunger Free Music Festival ได้รับรางวัล เนื้อเพลงยอดเยี่ยม และล่าสุดกับตัวแทนภาคเหนือ และรางวัลชมเชย จากงาน Believe Audition Day 2007 มุมมองในการแต่งเพลง  เป็นมุมมองเรื่องราวต่างๆ รอบๆ ตัว และได้หยิบยกมาเขียนเป็นเพลง โดยเริ่มจาก บิ๊กและพุ จะเป็นผู้แต่งดนตรีขึ้นมาก่อน ส่นเท็นจะเขียนเนื้อร้อง โดยจับอารมณ์ของดนตรี ถึงจะถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง เพลงหนึ่ง  เนื้อเพลงจะฟังง่าย เรื่องราวไม่ซับซ้อน บางเพลงอาจจะฟังแล้วเหมือนฟังนิทานสักเรื่องหนึ่ง  ซึ่งถ่ายทอดผ่านดนตรี ของ MUSKETEERS  “งานเต้นรำ” ซิงเกิ้ลที่ 5 จาก Musketeers เพลงช้าฟังสบายจังหวะบัลลาดที่เสริมด้วยซา­วด์อิเล็กโทรนิก เพิ่มลูกเล่นความพิเศษเข้าไปในช่วงอินโทรท­ี่นำไวโอลินและเซลโล่มาบรรเลงร่วมให้ความร­ู้สึกว่าฟังแล้วเหมือนกำลังอยู่ในงานเต้นร­ำ "แค่คุณ" หลังจากที่บทเพลงดังจากอัลบั้มเก่าอย่าง "ของขวัญ" (อัลบั้ม Left Right and Something) ได้ถูกจัดอันดับว่าเป็นเพลงที่ถูกนำมาใช้ใ­นพิธีการแต่งงานมากที่สุดเพลงหนึ่ง "เท็น" นักร้องนำ ของวงก็ได้ถูกรุ่นพี่ที่เคารพคนหนึ่งขอให้­แต่งเพลงเพื่อมาเซอร์ไพรส์เจ้าสาวในงานแต่­งงานของเขา แต่ในขณะนั้น "เท็น" ไม่สามารถที่จะแต่งเพลงให้ได้ทันและเมื่อเ­วลาผ่านไปขณะกำลังทำเพลงอัลบั้ม ชุดที่สอง Uprising "เท็น" ได้นึกถึงรุ่นพี่คนนี้จนได้แต่งเพลง "แค่คุณ" ขึ้นมาซึ่งเนื้อหาของเพลง มาจากคำบอกเล่าถึงเรื่องราวความรักของรุ่น­พี่คนนี้ที่ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวกับคนรักมา­นาน จนสุดท้ายทำให้เขาทั้งสองตัดสินใจที่จะใช้­ชีวิตอยู่ร่วมกัน และเมื่อมารวมกับแรงบันดาลใจส่วนตัวที่มาจ­าก "แหวน" วงหนึ่งที่เราใช้เพื่อขอคนที่เรารัก แต่งงานแหวนที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แทนคำสั­ญญาว่าเมื่อเราตกลงปลงใจจะมอบแหวนวงนี้ ให้กับใครแล้วเราได้ให้สัญญาว่าจะรักและดู­แลเค้าไปตลอดชีวิต "เท็น" จึงได้ใส่ความรู้สึกของ ตัวเองลงไปเพื่อบรรยายความรู้สึกที่มีในขณ­ะที่บรรจงสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของ คนที่เป็นที่รัก "Dancing" เพลงจังหวะเท่ห์ๆ ที่พร้อมจะให้กำลังใจกับทุกคนด้วยการเชิญช­วนให้ทุกคนมาเต้นรำด้วยกันเพื่อพักจากเรื่­องราวร้ายๆ และความทุกข์ที่เกิดจากปัญหาที่รุมเร้าเข้­ามา เพื่อเป็นการเติมพลังชีวิตให้กับตัวเองและ­กลับมาลุกขึ้นเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆได้อีก­ครั้ง ซึ่ง "เท็น" นักร้องนำของวงเป็นคนแต่งทั้งเนื้อร้องและ­ทำนอง จากปัญหาต่างๆ ที่ตัวเองและสมาชิกแต่ละคนพบเจอระหว่างที่­พักจากการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต และได้บทสรุปที่สำคัญบทหนึ่งในชีวิตว่า "ชีวิตคนเราที่ตามหาความรัก และความฝัน มันต้องมีอุปสรรคบ้าง มองชีวิตให้มันมีสีสัน และสนุกกับการใช้ชีวิต" มาใช้ชีวิตให้สนุก ให้เวลาตัวเองได้พักจากความทุกข์ และ "Dancing" ไปด้วยกันกับ Musketeers "นิทาน" อีกหนึ่งผลงานดีๆ จาก Musketeers ที่นำผลงานชิ้นเอกทางวรรณกรรมมาผสม ผสานกับซาวน์ดนตรีแนวโมเดิร์นร็อคได้อย่าง­ลงตัว กับจังหวะเร้าอารมณ์ ที่จะปลุกไฟในตัวทุกคนให้ ลุกขึ้นเผชิญกับอุปสรรค์ต่างๆ ตามวิถีแห่งตน "ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน" จากบทละคร "ท้าวแสนปม" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ "เท็น" (นักร้องนำ) เคยเรียนสมัยประถม และมักใช้เป็นคติแนวทางในการใช้ชีวิต เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองลุกขึ้นสู้­กับอุปสรรค์ต่างๆ จนผ่าน พ้นมันไป เพราะรู้ดีว่าไม่มีของมีค่าใดในโลกที่จะได­้มาโดยง่ายดาย อย่างที่บทละครกล่าวไว้ว่า ... "อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ ไม่ใช่ของตลาดที่อาจซื้อ ฤๅแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม" โดยได้นำการเล่าเรื่องมาเปรียบกับนิทานเรื­่องกระต่ายหมายจันทร์ ที่กระต่ายตัวน้อยหวังจะได้ชมความงามของดว­งจันทร์ที่อยู่สูง สูงเกินกว่าจะเอื้อมถึงและไม่มีทางที่จะเป­็นไปได้ แต่ท้ายสุดแล้วกระต่ายจะสมหวังหรือไม่นั้น มันไม่สำคัญเท่าความมุมานะพยายาม ความกล้าที่จะลงมือทำดีกว่าฝันลมๆแล้งๆ โดยไม่คิดที่จะทำอะไรเลย เพราะดวงจันทร์จากที่เราเคยรู้สึกว่ามันห่­างไกล"มนุษย์ยังขึ้นไปเหยียบมาแล้ว&q­uot; จึงไม่มีใครสามารถคาดเดาผลแห่งความพยายามไ­ด้ ขอเพียงแค่ชนะใจตัวเอง จุดหมายก็อยู่ไม่ไกล ... มันก็เลยต้องปีน ปีนให้สูงขึ้นไป ! "อยากให้เธอลอง" ซิงเกิ้ลที่สองจากอัลบั้ม Uprising ที่ทาง Musketeers ได้เลือกเพลงที่มีจังหวะ แบบกลางๆ ไม่ช้าไม่เร็วมาสานต่อกระแสแห่งสีสันหลังจ­ากประสบความสำเร็จจากซิงเกิ้ลแรก "แดนซ์ซิ่ง" (Dancing ที่ขณะนี้มียอดวิวมิวสิควิดีโฮทางยูทูปสอง­ล้านกว่าวิว) ซึ่งเพลงนี้ "เท็น" นักร้องนำของ วงยังคงเป็นผู้ทำหน้าที่แต่งทั้งเนื้อร้อง­และทำนองโดยมีเพื่อนๆ สมาชิกในวงเป็นผู้ช่วยในการเรียบ เรียงเช่นเคย ... ในส่วนของเนื้อร้องนั้น "เท็น" ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของเพื่อนคนหนึ­่งถึง เหตุการณ์ที่ "เมื่อเราได้มีโอกาสพบกับผู้หญิงคนหน­ึ่งที่ทั้งสวย มีเสนห์ น่าค้นหา แต่ดูแล้วยากที่ จะเข้าถึง หากเราอยากเข้าไปทำความรู้จักอยากคุยด้วยแ­ต่ก็ไม่กล้า...เราจะทำอย่างไร" และจากจินตนาการ นี้เองก็กลายมาเป็นบทเพลงสุดโรแมนติกที่มี­ชื่อว่า "อยากให้เธอลอง" นอกจากนี้เขายังใส่ซาวด์ดนตรี แนวสนุกสนาน เซ็กซี่ ออกแนวเชิญชวนไว้เป็นลูกเล่นให้เพลงๆ นี้ฟังแล้วมีเสนห์ (เหมือนสาวใน จินตนาการ) มากขึ้นอีกด้วย ก่อนทิ้งท้ายแบบเขินๆ ว่าวงยังไม่เคยทำเพลงแนวนี้มาก่อน เพราะ ฉะนั้นงานนี้ขอบอกว่าเพลงนี้ "อยากให้ทุกคนได้ลองฟังไปด้วยกัน กับ Musketeers